1. Next-Generation Firewall สามารถทำงานได้หลากหลายพร้อมกัน เช่น การคัดกรองแพ็กเก็ต แปลงที่อยู่และเลขพอร์ตบนเครือข่าย ตรวจสอบทราฟิกแบบ Stateful หรือทำ VPN ได้แล้ว ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างระบบตรวจจับและป้องกันการบุกรุกที่วิเคราะห์จากพฤติกรรมทราฟิก ข้อมูลซิกเนเจอร์ หรือกิจกรรมที่ต้องสงสัยได้ด้วย ทำให้ครอบคลุมได้มากกว่าลำดับชั้น Data Link หรือ Transport ตาม OSI model โดยสามารถตรวจเช็คขึ้นไปได้ถึงชั้น Application Layer เลยทีเดียว
2. Application ในปัจจุบันสามารถเปลี่ยนเลขพอร์ตได้ตามการทำงาน หรือแม้แต่ Tunnel หลอก Firewall เพื่อให้ผ่านการอนุญาต ดังนั้น Next-Generation Firewall จึงพัฒนาตัวเองให้สามารถตรวจแพ็กเก็ตแบบเจาะลึกจนรู้ต้นตอของ Application ได้อย่างละเอียดและยืดหยุ่น เช่น อนุญาตให้ใช้งาน Facebook แต่ไม่ให้ใช้งานฟีเจอร์แชท ผ่าน Facebook ได้
3. ทำงานราบรื่นต่อเนื่องบนโครงสร้างพื้นฐานทุกแบบ ด้วยแอนติไวรัส ตัวกรองสแปม การตรวจแพ็กเก็ตแบบละเอียด และระบบควบคุม Application ที่รวมอยู่ในอุปกรณ์เดียว ไม่สร้างความซับซ้อนเพิ่มขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานอยู่
4. ป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยระบบแอนติไวรัสและตรวจสอบมัลแวร์ ที่มีการอัพเกรดตัวเองตลอดเวลา รวมถึงการสแกนหาช่องโหว่ต่าง ๆ บน Application ที่ใช้งานอยู่ ลดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ช่วยเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยต่อข้อมูลที่รับส่งผ่านกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. รักษาความเร็วของเครือข่ายเดิมได้ เมื่อ Firewall แบบเดิมมักกระทบกับความเร็วบนเครือข่ายอย่างรุนแรง แต่ไม่ใช่กับ Next-Generation Firewall ซึ่งสามารถรักษา Throughput ได้ใกล้เคียงสถานะปกติได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดการใช้ Bandwidth ของทราฟิกที่ไม่มีประโยชน์ได้อีกด้วย
หากองค์กรของคุณกำลังมีแผนสำหรับ Next-Generation Firewall ProOne IT เรามีทีมงานยินดีให้คำแนะนำ ร่วมวางแผน บริการดำเนินการติดตั้ง ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี พร้อมทั้งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถพัฒนามาตรฐานงานบริการอย่างต่อเนื่องตามแนวทาง ISO 9001 และ ISO 27001
เรื่องของ IT ยกให้เป็นหน้าที่ของ ProOne IT ดูแล
ติดต่อสอบถามข้อมูลบริการได้ที่
Tel. 02 619 2161 กด 1 (ฝ่ายขาย)
Email : sales@professional-one.com
Line@ : Proonesales หรือคลิกลิงก์
Website : https://www.poit.co.th/